LINE Rich Menu เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพผ่านทางหน้าจอแชท โดยสามารถแสดงเมนูต่าง ๆ ที่กำหนดได้เอง เช่น ทางลัดไปยังบริการหลัก การแสดงโปรโมชั่น หรือข้อมูลเกี่ยวกับแบรนด์ ทั้งนี้ Rich Menu มีการแสดงผลตามลำดับความสำคัญของการตั้งค่า ซึ่งจะแตกต่างกันตามประเภทของ Rich Menu ที่เลือกใช้งาน

ประเภทของ LINE Rich Menu และลำดับความสำคัญ

มี Rich Menu อยู่ 3 ประเภท ซึ่งแต่ละประเภทจะมีลำดับความสำคัญในการแสดงผลตามลำดับที่กำหนดไว้ โดยเรียงจากลำดับความสำคัญสูงสุดไปยังต่ำสุด ดังนี้:

 1. Per-user Rich Menu (ตั้งค่าด้วย Messaging API)

 • รายละเอียด: เป็นเมนูที่กำหนดเป้าหมายการแสดงผลเฉพาะสำหรับผู้ใช้แต่ละคน โดยใช้ LINE Messaging API เพื่อกำหนด Rich Menu เฉพาะสำหรับแต่ละบัญชีผู้ใช้

 • การใช้งาน: เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการให้บริการเฉพาะบุคคล (Personalization) เช่น การแสดงเมนูตามพฤติกรรมการใช้งานหรือความสนใจของผู้ใช้

 • ลำดับความสำคัญ: Per-user Rich Menu จะถูกแสดงก่อน Rich Menu ประเภทอื่น ๆ หากมีการตั้งค่า Rich Menu แบบนี้ไว้สำหรับผู้ใช้คนใด เมนูนี้จะเป็นเมนูที่ผู้ใช้เห็นเป็นอันดับแรก

 2. Default Rich Menu (ตั้งค่าด้วย Messaging API)

 • รายละเอียด: เป็นเมนูหลักที่ตั้งค่าให้แสดงสำหรับทุกคน โดยสามารถใช้ LINE Messaging API ในการกำหนด Default Rich Menu ที่จะแสดงสำหรับผู้ใช้ที่ไม่มีการตั้งค่า Per-user Rich Menu

 • การใช้งาน: ใช้สำหรับแสดงข้อมูลหลักที่ทุกคนควรเห็น เช่น ข้อมูลสินค้าและบริการทั่วไป ข้อเสนอพิเศษ หรือทางลัดในการติดต่อฝ่ายสนับสนุน

 • ลำดับความสำคัญ: Default Rich Menu แบบนี้จะถูกแสดงเมื่อไม่มี Per-user Rich Menu ตั้งค่าสำหรับผู้ใช้นั้น ๆ

 3. Default Rich Menu (ตั้งค่าด้วย LINE Official Account Manager)

 • รายละเอียด: เป็นเมนูเริ่มต้นที่กำหนดโดยใช้ LINE Official Account Manager และมีลำดับความสำคัญต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับ Rich Menu ที่ตั้งค่าผ่าน Messaging API

 • การใช้งาน: เหมาะสำหรับการตั้งค่าเมนูเบื้องต้นที่ไม่ต้องมีการปรับเปลี่ยนบ่อย เช่น การแสดงลิงก์ไปยังหน้าเว็บไซต์ ข้อมูลพื้นฐานของแบรนด์ หรือเมนูทั่วไปที่เหมาะกับผู้ใช้ทุกคน

 • ลำดับความสำคัญ: Default Rich Menu แบบนี้จะถูกแสดงเมื่อไม่มีการตั้งค่า Rich Menu ใด ๆ ผ่าน Messaging API ทำให้มีลำดับความสำคัญในการแสดงผลต่ำที่สุด

การเลือกใช้งาน Rich Menu แต่ละประเภท

การเลือกประเภทของ Rich Menu ที่เหมาะสมและการกำหนดลำดับความสำคัญในการแสดงผลนั้นขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และกลยุทธ์ของธุรกิจ:

 1. กรณีที่ต้องการความเฉพาะเจาะจง: หากต้องการให้ผู้ใช้แต่ละคนได้รับประสบการณ์ที่ตรงกับความต้องการและความสนใจ การใช้ Per-user Rich Menu จะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด

 2. กรณีที่ต้องการแสดงเมนูเดียวกันสำหรับทุกคน: Default Rich Menu ที่ตั้งค่าผ่าน Messaging API หรือ LINE Official Account Manager จะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม โดยขึ้นอยู่กับความต้องการในการควบคุมและความง่ายในการตั้งค่า

ตัวอย่างการใช้งานจริง

 1. ธุรกิจ e-Commerce: สามารถใช้ Per-user Rich Menu เพื่อแสดงสินค้าที่แนะนำเฉพาะบุคคล หรือแสดงโปรโมชั่นที่เกี่ยวข้องกับสินค้าที่ผู้ใช้เคยดูหรือซื้อ

 2. บริการจองห้องพัก: อาจใช้ Default Rich Menu เพื่อนำเสนอทางลัดสำหรับการจองห้อง การเช็กราคาห้องพัก หรือการดูรีวิวสถานที่

 3. ร้านอาหาร: สามารถใช้ Default Rich Menu ที่ตั้งค่าด้วย LINE Official Account Manager เพื่อแสดงเมนูอาหารหลัก ลิงก์ไปยังการสั่งอาหารออนไลน์ หรือการจองโต๊ะ

สรุป

การจัดลำดับความสำคัญของ LINE Rich Menu เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดแก่ผู้ใช้งาน โดยเลือกประเภทและลำดับความสำคัญของ Rich Menu ให้สอดคล้องกับเป้าหมายและความต้องการของลูกค้า การใช้งาน Per-user Rich Menu เหมาะสำหรับการบริการเฉพาะบุคคล ในขณะที่ Default Rich Menu ที่ตั้งค่าผ่าน Messaging API หรือ LINE Official Account Manager เหมาะสำหรับการแสดงเนื้อหาทั่วไป

การจัดการลำดับความสำคัญนี้จะช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับปรุงการสื่อสารและเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการผ่านช่องทาง LINE ได้อย่างมีประสิทธิภาพ